YAMAHA TRACER 9 GT : Press Test

   Yamaha Riders' Club ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ของ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ มอเตอร์ จำกัด เปิดประสบการณ์การขับขี่สุดเร้าใจด้วยการจัดกิจกรรม “YAMAHA TRACER 9 GT...PRESS TEST” เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสกับสมรรถนะของ YAMAHA TRACER 9 GT สปอร์ตทัวริ่งที่ผู้ขับขี่ทั่วโลกเลือกเป็นพาหนะคู่ใจในการเดินทางออกท่องโลกกว้าง อีกทั้งยังเป็นโมเดลที่ได้รับการยอมรับจากผู้ขับขี่จนมียอดจำหน่ายสูงสุดในรถพิกัดเดียวกัน!
สำหรับ YAMAHA TRACER 9 GT ที่นำมาให้ได้ลองขับขี่ในครั้งนี้เป็นโมเดล 2023 ที่มีด้วยกัน 2 สีคือ สีขาวและสีดำ ตอบสนองทุกจังหวะการบิดคันเร่งด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ Crossplane (CP3) 890 ซีซี. 4 จังหวะ 4 วาล์ว 3 สูบ DOHC ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 87.5 กิโลวัตต์ หรือ 119 แรงม้าที่ 10,000 รอบ/นาทีและแรงบิด 93 นิวตันเมตรที่ 7,000 รอบ/นาที ซึ่งผู้ขับขี่สามารถเลือกขุมพลังความแรงได้ด้วยกันถึง 4 โหมด โดยโหมด 1 เป็นโหมดที่ปลดปล่อยพละกำลังออกมาแบบเต็มพิกัดให้ความเร้าใจแบบเดียวกับรถสปอร์ต โหมด 2 ถูกเคลมว่าเป็นโหมดที่เหมาะกับการขับขี่แบบทัวริ่ง แม้จะไม่จัดจ้านเท่ากับโหมด 1 แต่ในจังหวะที่ต้องการเร่งแซงก็สามารถที่จะกดคันเร่งแซงได้อย่างทันใจแบบไม่ต้องรอรอบกันเลยทีเดียว ส่วนโหมด 3 นั้นจะให้ความรู้สึกที่สมูทและนุ่มนวลทั้งในจังหวะที่เปิดและปิดคันเร่ง และโหมด 4 ถูกจูนให้เหมาะกับการขับขี่ในสภาพพื้นถนนที่เปียกหรือขับขี่ในขณะฝนตกนั่นเอง อีกทั้งยังมาพร้อมกับเกียร์ 6 สปีดที่ได้รับการติดตั้ง Up-and-down Quick Shift System (QSS) ระบบ Quick Shift เพื่อช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์โดยไม่ต้องใช้คลัตช์ทั้งในจังหวะเปลี่ยนเกียร์ขึ้นและลง ทำให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและมีความนุ่มนวลยิ่งขึ้น

   YAMAHA TRACER 9 GT ตอบสนองทุกเส้นทางการเดินทางได้อย่างลงตัวด้วย KYB semi-active suspension ระบบกันสะเทือนแบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งด้านหน้าและด้านหลังที่สามารถปรับได้เต็มระบบ โดยถูกควบคุมการทำงานด้วยเซ็นเซอร์ IMU และ ECU ซึ่งสั่งงานผ่านชุดไฮดรอลิก (HU) และชุดควบคุมช่วงล่าง (SCU) เพื่อปรับการตั้งค่าความแข็งอ่อนของระบบกันสะเทือนแบบอัตโนมัติ โดยสามารถเลือกโหมดถูกตั้งค่าที่มีให้เลือกด้วยกัน 2 โหมดผ่านทางหน้าจอ TFT

   นอกจากนั้น YAMAHA TRACER 9 GT ยังแข็งแกร่งด้วย Lightweight CF aluminium die-cast frame เฟรม Deltabox อลูมิเนียมหล่อขึ้นรูป CF ที่ออกแบบใหม่ทำให้มีความแข็งแรงมากขึ้น มีความคล่องตัวและมีความมั่นคงเมื่อขับขี่สไตล์รถสปอร์ต โดยสวิงอาร์มอลูมิเนียมที่ออกแบบใหม่จะมีความยาวขึ้น 64 มม. เพื่อให้มั่นใจและมีเสถียรภาพที่ดีขึ้นเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง แต่ยังคงให้การควบคุมที่คล่องตัว
อีกทั้งยังให้ทุกจังหวะการขับขี่เต็มไปด้วยความมั่นใจด้วย 6-Axis IMU plus lean-sensitive rider aids ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่เดินทางได้ไปด้วยความมั่นใจและการควบคุมที่แม่นยำในทุกสภาวะอากาศและทุกสภาพเส้นทาง ด้วย IMU 6 แกน ขนาดกะทัดรัดที่พัฒนาจาก R1M ไม่ว่าจะเป็น ระบบ Traction Control System (TCS) ที่เลือกปรับได้ถึง 3 ระดับ, ระบบ Slide Control System (SCS) ระบบควบคุมการสไลด์, Front Wheel LIFt Control System (LIF) ระบบควบคุมการยกล้อหน้า และ Brake Control system (BC) ระบบควบคุมเบรก

   YAMAHA TRACER 9 GT นอกจากจะให้สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมแล้ว ยังโดดเด่นด้วยฟีจเจอร์ที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น Twin 3.5" TFT meters หน้าจอ TFT ขนาด 3.5 นิ้ว ที่มีให้ด้วยกัน 2 จอแยกกันอิสระ ให้ข้อมูลที่เข้าใจได้ง่ายและอ่านง่าย ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้อย่างชัดเจนและที่ได้รับข้อมูลครบถ้วนในขณะขับขี่ โดยหน้าจอด้านซ้ายจะแสดงข้อมูลการทำงานที่สำคัญ เช่น ความเร็ว, รอบเครื่องยนต์, เกียร์ และโหมดการขับขี่ ส่วนหน้าจอด้านขวาจะแสดงข้อมูลเกี่ยว มาตรวัดระยะทางรวม, มาตรวัดระยะทาง Trip 1 และ 2, อุณหภูมิ, อัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น โดยสามารถเลือกให้แสดงข้อมูลได้ถึง 4 ช่องในจอเดียวกัน, LED cornering lights ไฟหน้า LED เจนเนอเรชั่นใหม่ สุดล้ำ! ให้ความชัดเจนที่สูงสุดที่ปลายโค้งเพื่อช่วยนำทางให้ผู้ขับขี่ในค่ำคืน ความสว่างจะเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อองศาการเอียงของรถเพิ่มขึ้น ทำให้มองเห็นได้ชัดเจนเวลาขับขี่เข้าโค้งในสไตล์สปอร์ตได้ดีขึ้นในเวลากลางคืน โดยระบบจะทำงานเมื่อตัวรถเอียงมากกว่า 70 ที่ความเร็วอย่างน้อย 5 กม./ชม. และ Grip heater สามารถปรับระดับความร้อนได้ถึง 10 ระดับ โดยสามารถควบคุมด้วยการใช้ปุ่มหมุนเลื่อนที่แฮนด์ฝั่งขวา และดูระดับความร้อนบนหน้าจอ TFT โดยกริปถูกออกแบบเป็นรูปทรงพิเศษมียางที่บางกว่าซึ่งช่วยให้ส่งผ่านความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความสบายในการขับขี่ทุกสภาพอากาศ

   สำหรับทริป “YAMAHA TRACER 9 GT...PRESS TEST” นี้ ทาง Yamaha Riders' Club เลือกใช้เส้นทาง กรุงเทพ – เขาใหญ่ ระยะทางรวมไปกลับแล้วกว่า 300 กม. ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมทดสอบได้สัมผัสกับสมรรถนะของ YAMAHA TRACER 9 GT ได้อย่างเต็มที่ในทุกมิติทีเดียว เริ่มตั้งแต่ท่านั่งขับขี่ที่ให้รู้สึกสบาย ไม่เมื่อยล้าแม้จะเดินทางไกลติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อีกทั้งยังสามารถที่จะควบคุมรถได้อย่างถนัดและเต็มไปด้วยความคล่องแคล่วทีเดียว

   ในส่วนของพละกำลังจากเครื่องยนต์ CP3 นั้นก็ให้การตอบสนองต่อการบิดคันเร่งได้อย่างเร้าใจ โดยในทริปนี้เราเลือกใช้โหมด 2 ในช่วงของการเดินทางช่วงทางตรงยาว ซึ่งให้อารมณ์การขับขี่ที่เร้าใจในทุกจังหวะที่เปิดคันเร่งเพราะเราสามารถเรียกแรงม้าออกมาใช้งานได้อย่างทันใจแบบไม่ต้องรอรอบแม้แต่น้อย และในช่วงทางขึ้นเขาใหญ่เราลองเปลี่ยนมาใช้โหมด 3 ซึ่งก็ทำให้การขับขี่ที่เนียนมากขึ้นทำให้จังหวะในการเข้าโค้งออกโค้งมีความสมูททำให้เราสามารถที่จะควบคุมรถให้ไปในไลน์ที่ต้องการได้อย่างสบายๆ นอกจากนี้ YAMAHA TRACER 9 GT ยังเป็นสปอร์ตทัวริ่งที่สามารถที่จะพลิกซ้ายพลิกขวาในการเข้าโค้งบนเขาได้อย่างคล่องตัวโดยที่ผู้ขับขี่ไม่รู้สึกว่าไม่เปลืองแรงหรือโหนตัวช่วยมากจนเกินไปอีกด้วย

   ส่วนระบบช่วงล่างที่แม้จะปรับอยู่ในโหมด 2 ซึ่งยามาฮ่าบอกว่าเหมาะกับการเดินทางแบบทัวริ่งนั้น ก็ให้การยึดเกาะถนและให้ความมั่นใจได้เป็นอย่างดีในช่วงของการเข้าโค้ง ส่วนในช่วงที่ใช้ความเร็วในการเดินทางที่ระดับความเร็วย่าน ไม่เกิน 180 กม./ชม. ก็ยังให้เสถียรภาพที่มั่นคง แต่ถ้ายังอยากที่จะไปเร็วกว่านั้นอาจจะต้องเปลี่ยนไปใช้โหมด 1 ที่จะให้อารมณ์ของช่วงล่างแบบรถสปอร์ตมากขึ้น

   สรุปโดยรวมของทริปนี้ที่เราเดินทางไปกับ YAMAHA TRACER 9 GT ก็รู้สึกประทับใจกับสปอร์ตทัวริ่งคันนี้เป็นอย่างมาก เพราะสามารถตอบโจทย์การเดินทางได้อย่างครบครัน ทั้งในเรื่องของพละกำลัง สมรถนะการขับขี่ และความสะดวกสบายในการเดินทาง ซึ่งเชื่อว่าด้วยราคาเพียง 569,000 บาท จะทำให้ผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางและกำลังมองหารถคู่ใจจะทำให้ตัดสินใจเป็นเจ้าของ YAMAHA TRACER 9 GT ได้อย่างไม่ยากแน่นอน!!!