Last updated: 2 ต.ค. 2567 | 1105 จำนวนผู้เข้าชม |
บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) และกลุ่มบริษัทโซจิทสึ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ประกาศความร่วมมือทางธุรกิจเตรียมรุกตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยในปีพ.ศ. 2563 ด้วยงบลงทุน 400 ล้านบาทพร้อมร่วมจัดตั้งบริษัท วรูม จำกัด (Vroom Co., Ltd.) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์แบรนด์ บาจาจ (Bajaj) เคทีเอ็ม (KTM) และฮัสกวานา (Husqvarna) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
บาจาจ ในฐานะแบรนด์รถจักรยานยนต์อันดับ 3 ของโลก มีโรงงานผลิตทั้งในประเทศอินเดียและทั่วโลกที่ได้มาตรฐานสากล โดยมีสำนักงานในกว่า 70 ประเทศ มียอดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ในปีที่ผ่านมา ทั้งหมดกว่า 4.2 ล้านคัน โดยจำนวน 1.7 ล้านคันส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ สร้างรายได้รวมถึง 4.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญกับประเทศไทยในฐานะตลาดหลักของบริษัทฯ และได้วางแผนที่จะย้ายสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคเอเชีย และเปิดศูนย์การออกแบบในกรุงเทพฯ ในปีพ.ศ. 2563
เคทีเอ็ม อินดัสตรีส์ เอจี ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์เคทีเอ็ม และฮัสกวานาจากประเทศออสเตรีย และยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับบาจาจร่วมกันออกแบบและผลิตรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ โดยเคทีเอ็มไม่เพียงเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป แต่ยังเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตรถมอเตอร์ไซค์ออฟโรดและสปอร์ตของโลก โดยในปีพ.ศ. 2561 บริษัทฯ มียอดจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์รวมทั้ง 2 แบรนด์ทั่วโลกอยู่ที่ 261,454 คัน (เคทีเอ็ม 212,899 คัน และฮัสกวานา 48,555 คัน) สะท้อนการเติบโตขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และมีรายได้สูงถึง 1,560 ล้านยูโร (หรือประมาณ 52,260 ล้านบาท) ทำสถิติรายได้สูง 8 ปีติดต่อกัน
ทั้งนี้ รถมอเตอร์ไซค์เคทีเอ็มมีชื่อเสียงในฐานะรถออฟโรดทรงสปอร์ตที่ทรงพลัง และคล่องตัว ในขณะที่ ฮัสกวานา แบรนด์จากประเทศสวีเดนได้รับการยอมรับในเรื่องของความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของรถมอเตอร์ไซค์ประเภทกระบอกสูบเดียว และประเภทออฟโรดจากทั่วโลก
“เราเชื่อว่าตลาดประเทศไทยนั้นมีศักยภาพโดยเฉพาะในกลุ่มรถจักรยานยนต์สปอร์ต และเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทที่มีประสบการณ์ และประสบความสำเร็จอย่างสูงในอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศไทย ซึ่งการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายรายใหม่ พร้อมกับการมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่งอย่างบาจาจ จะช่วยสร้างแบรนด์ของเราในตลาด ซึ่งเป็นการสนับสนุนกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทฯ” มร. ลูก้า มาร์ติน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เคทีเอ็ม เอเชีย กล่าวเสริม
“แม้ว่าตลาดโดยรวมของรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยจะชะลอตัวลงนับจากปีพ.ศ. 2555 ที่มียอดขายสูงถึง 2.13 ล้านคัน แต่เรามั่นใจว่าด้วยรถมอเตอร์ไซค์สปอร์ตที่เราจะแนะนำเข้าสู่ตลาดจากทั้ง 3 แบรนด์นี้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีโดยเฉพาะในกลุ่มคนรักบิ๊กไบค์” มร.โยชิอากิ อิชิมูระ ประธาน บริษัท โซจิทสึ ออทรานส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทในเครือกลุ่มบริษัทโซจิทสึ กล่าว
“อาปิโก รู้สึกตื่นเต้นกับความท้าทายใหม่ของการร่วมทุนครั้งนี้ เรามองไปข้างหน้าในการปรับเปลี่ยนธุรกิจของบริษัทฯ จากอุตสาหกรรมยานยนต์สู่ธุรกิจรถจักรยานยนต์ในปีหน้า เราเชื่อมั่นว่าด้วยความสัมพันธ์ทางธุรกิจอันยาวนานกับ โซจิทสึ คอร์ปอเรชั่น ผนวกกับประสบการณ์ของเราและทีมงานคุณภาพของวรูม จะทำให้อาปิโกประสบความสำเร็จและสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่บริษัทฯ อย่างแน่นอน และเรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจาก บาจาจ และเคทีเอ็ม อินดัสตรีส์ให้มีส่วนช่วยเสริมสร้างแบรนด์ในประเทศไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น” มร. เย็บ ซู ชวน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) กล่าว
บริษัท วรูม จำกัด ได้แต่งตั้ง มร.ฮิเดกิ ยานากิซาวะ อดีตประธานบริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยนายวรท กมลโชติรส ดำรงตำแหน่ง รองประธานกรรมการบริหาร
“วรูม มุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทที่รู้จักและเข้าใจลูกค้า ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดของเราคือการสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์รถมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ที่เป็นที่ต้องการของลูกค้า และการบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ โดยเน้นเรื่องการส่งมอบชิ้นส่วนอะไหล่อย่างรวดเร็วและการซ่อมบำรุงที่ตรงเวลา ปัจจุบัน เรากำลังมองหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อสร้างเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพและครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเป็นการตอกย้ำพันธสัญญาของเรา” มร. ฮิเดกิ ยานากิซาวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วรูม จำกัด กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ บริษัทฯ กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างแฟลกชิพโชว์รูมปากซอยลาดพร้าว 122 และคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2563 ก่อนการเปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ของแบรนด์บาจาจ เคทีเอ็ม และฮัสกวานาในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ในเดือนมีนาคม 2563