รีวิว Yamaha R9 ซูเปอร์สปอร์ตยุคใหม่ สมรรถนะที่พร้อมมอบความตื่นเต้นเร้าใจในทันที

Last updated: 20 พ.ย. 2568  |  6 จำนวนผู้เข้าชม  | 

รีวิว Yamaha R9 ซูเปอร์สปอร์ตยุคใหม่ สมรรถนะที่พร้อมมอบความตื่นเต้นเร้าใจในทันที

   Yamaha R9 เป็นรถสปอร์ตที่ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นตั้งแต่ยังไม่สตาร์ทเครื่อง เพราะเพียงแค่เดินเข้าไปเห็นทรงแฟริ่งแบบ Horizontal Movement พร้อมเส้นสายทรงกระสวยที่ชัดเจนตั้งแต่หัวจรดท้าย ก็รู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่แค่การอัพเกรดจากตระกูล R-Series แต่มันคือการ “ปฏิวัติความรู้สึกของซูเปอร์สปอร์ต” ในแบบที่ Yamaha ตั้งใจให้เป็นอย่างแท้จริง และเมื่อได้ขึ้นลองขับขี่จริง…ความรู้สึกทั้งหมดมันยิ่งชัดขึ้นไปอีกหลายระดับเลยทีเดียว!!!



 ดีไซน์ ดุดัน เรียบคม และลู่ลมกว่าที่คิด

   เมื่อมองจากด้านหน้าของ R9 ให้ความรู้สึก “สุขุม เยือกเย็น” ด้วยไฟหน้าที่ซ่อนอยู่ในช่องดักอากาศทรงตัว M และไฟ Position แบบ Twin-eye เรียงบน–ล่าง ทำให้รถเหมือนกำลังจ้องคุณตอบกลับตลอดเวลา อีกทั้งยังมี Winglets ใต้ไฟหรี่หน้าที่ไม่ใช่แค่ของแต่งเท่ๆ แต่ให้ฟีลลิ่งเรื่องอากาศพลศาสตร์อย่างเห็นได้ชัด เพราะมันช่วยกดด้านหน้าลงแบบรู้สึกได้ว่ายามาฮ่าปรับจูน aerodynamic มาดีจริงๆ ซึ่งจะให้พูดตรงๆ ก็คือ รูปทรงใหม่ของ R9 มันดูสมดุลระหว่างความสวย ความไว และความพรีเมียม ได้ดีมาก



 ท่านั่ง & ความคล่องตัว : สปอร์ต แต่ “ใช้งานได้จริง”

   สิ่งแรกที่ทำให้เราประหลาดใจ คือความเป็นมิตร เพราะยามาฮ่าตั้งใจวางตำแหน่งของ R9 ให้อยู่ระหว่าง R7 ที่ขี่ง่ายและ R6 ที่โคตรสปอร์ต ด้วยเบาะที่มีความสูงเพียง 830 มม. ขนาดความหนาของเบาะใกล้เคียงกันกับ R6 แต่รูปทรงของพื้นผิวเบาะ และดีไซน์ของเฟรมที่แคบลงทำให้ผู้ขี่สามารถวางเท้าสัมผัสพื้นได้สะดวกยิ่งขึ้น รวมถึงขึ้น-ลงรถได้ง่ายกว่า นอกจากนี้เบาะยังมีความแข็งน้อยกว่า R6 จึงให้ความสบายมากขึ้น
   แฮนเดิ้ลบาร์แบบ clip-on เน้นการถ่ายน้ำหนักไปด้านหน้า นแบบรถ Supersport แต่ยังคงเหมาะกับการขับขี่ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากผู้ขับขี่ไม่ต้องโน้มตัวไปด้านหน้ามากจนเกินไป
นอกจากนี้ถังน้ำมัน ที่ออกแบบให้มีขนาดความกว้างที่เหมาะสม เพื่อมอบความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกันระหว่างรถกับผู้ขับขี่ ทำให้ผู้ขับขี่สามารถหนีบขาและวางแขนได้มั่นคงในขณะเข้าโค้ง ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น



 เครื่องยนต์ CP3 888 ซีซี. 3 สูบ ที่ให้แรงบิดเร้าใจ

   เครื่องยนต์ CP3 888 ซีซี. ให้แรงบิดที่ทรงพลัง มีคันเร่งไฟฟ้า Yamaha Chip Controlled throttle (YCC-T) ที่ช่วยให้การตอบสนองของคันเร่งดียิ่งขึ้น และสามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำ
นอกจากนี้ยามาฮ่ายังได้ทำการออกแบบเสียง โดยเน้นเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์ CP3 เสียงไอดีและเสียงท่อไอเสีย เป็นส่วนที่สำคัญต่อความรู้สึกของการขับขี่ R9 จึงถูกพัฒนาในเรื่องของเสียงที่ดึงศักยภาพของเครื่องยนต์ CP3 ออกมาอย่างเต็มที่ รูปทรงของ Airbox และครีบที่ถูกติดตั้ง ช่วยเพิ่มความรู้สึกขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำและรอบเครื่องต่ำ เสียงท่อไอเสีย ถูกออกแบบให้มีความชัดเจนที่ความเร็วสูงและรอบเครื่องสูง เสียงไอดี (Induction roar) ถูกเน้นให้ชัดขึ้น ผลลัพธ์จากทั้งสอง ทำให้ความรู้สึกของแรงบิดและการเร่ง มีความชัดเจน เร้าใจยิ่งขึ้น



 เฟรมใหม่ : เบา คม และ “ให้ฟีดแบ็กดี”

   โครงสร้างเฟรมอลูมิเนียบแบบ gravity-cast ที่มีน้ำหนักเพียง 9.7 กก. คือจุดที่ผมรู้สึกได้ทันทีว่ามันต่างจากรถสปอร์ตระดับกลางทั่วไป โดยที่ความเร็วต่ำรถเบาจนคล้ายพิกัด 600cc แต่ที่ความเร็วสูงเฟรมกลับให้ฟีลนิ่ง ขี่ทางตรง 150–180 แบบไม่ต้องเกร็งแขน และการโยกพลิกรถซ้าย–ขวาเร็วๆ รถรับแรงโดยไม่สะท้านเกินไป เป็นเฟรมที่ให้ “ฟีลซูเปอร์สปอร์ตแท้ๆ”



 ช่วงล่าง KYB เซ็ตใหม่ – นิ่ง คม เซนซิทีฟ

   โช้คอัพหน้า SDF ขนาดแกนโช้ค 43 มม. ที่สามารถปรับแยก Compression / Rebound ได้ พร้อมระบบปรับแรงหน่วงแบบสองทาง (Low Speed / High Speed) เพื่อการตอบสนองที่แม่นยำในทุกสภาพการขี่ โดยเฉพาะช่วงเข้าโค้งเร็ว รู้สึกถึงการยุบ–คืนที่เนียนสุด ๆ
   โช้คอัพหลังแบบ Super Low-Speed Valve ช่วยให้รถนิ่งในจังหวะเปลี่ยนทิศทางเร็วๆ หรือโดนแรงกระแทกจากพื้นแบบกะทันหัน มันเก็บได้หมด ทำให้ขี่เร็วๆ แล้วมั่นใจมาก
นี่คือหนึ่งในช่วงล่างติดรถที่ “ดีที่สุดในคลาสตอนนี้” แบบไม่ต้องอ้อมค้อมเลย



 เบรก Brembo Stylema + จานใหญ่ 320 มม. – จิกแบบคม แต่ควบคุมง่าย

   แค่แตะ…รถก็เริ่มชะลอทันที แต่ไม่ใช่แบบหัวทิ่ม เป็นความแม่นยำและความสม่ำเสมอที่รู้สึกว่ามัน “แพง”
สายถักติดรถช่วยให้เบรกไม่ยวบตอนเบรกหนักหรือใช้ต่อเนื่อง ในการขี่จริง ผมเบรกลึกกว่าเดิมได้ประมาณ 10–15 เมตรโดยยังคุมรถอยู่สบาย



 เทคโนโลยี & โหมดการขี่ – จัดเต็มมาก

   IMU 6 แกน คือหัวใจของรถรุ่นนี้จริง ๆ เพราะมันทำให้ระบบทั้งหมดทำงานเป็นหนึ่งเดียว นอกจากนั้นยังมาพร้อมออฟชั่นแบบจัดเต็ม ทั้ง Traction Control / Slide Control / Engine Brake / Wheelie Control / ABS ปรับตามองศารถ และ Yamaha Ride Control (YRC) ซึ่งฟีเจอร์นี้ให้ผู้ขับขี่ สามารถเลือกกำลังเครื่องยนต์ และระดับการแทรกแซงของระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ต่างๆ ตามความชอบ หรือสภาพถนนได้ มีทั้งโหมด Sport / Street / Rain / Custom และโหมด Track 4 แบบ สำหรับสายแทร็กโดยเฉพาะ
   ซึ่งการแสดงผลฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ เราจะเห็นได้จากหน้าจอ TFT 5 นิ้ว สวย คม และใช้งานง่าย พร้อม Track Mode ที่โชว์เวลาต่อรอบได้จริง
ฟีเจอร์ครบจนรู้สึกว่า “นี่มันซูเปอร์ไบค์ย่อส่วนชัด ๆ”



 ฟีลลิ่งการขี่จริง : เร้าใจ มั่นคง และ “พอเหมาะพอดี” มาก

หลังขี่ได้ลองขี่ทำให้เรารู้สึกว่า จุดเด่นที่ชัดที่สุดของ R9 คือมันถูกสร้างมาให้ “สนุกทุกความเร็ว”
รอบต่ำ : เสียงไอดีขี้เล่น บิดแล้วดึงแบบนุ่มแต่แรง
รอบกลาง : รถพุ่งทะยาน เร้าใจ ฟีลโหดกำลังพอดี
รอบสูง : เสียงท่อชัด แอโร่ไดนามิคดี ไม่รู้สึกซูบวาบไปมาก ตัวรถนิ่งและเสถียรมาก
จังหวะเข้าโค้ง : เข่าหนีบถังง่าย รถตอบสนองการพลิกรถได้เร็ว มั่นคง และควบคุมได้แม่น
เบรก : มั่นใจมาก และควบคุมแรงได้ง่ายมาก



   ทั้งหมดนี้ทำให้เรารู้สึกว่า R9 คือรถสปอร์ตที่ “ครบ” และ “บาลานซ์ที่สุด” สวย ลู่ลม และดูดุดัน, ขี่สนุกตั้งแต่ความเร็วต่ำไปจนถึงรอบปลาย, มีเทคโนโลยีเต็มลำแบบรถแข่งย่อส่วน, เป็นมิตรกับคนใช้งานจริงมากกว่าที่คิด และพร้อมลงสนามได้โดยแทบไม่ต้องแต่งเพิ่ม

   ซึ่งถ้าคุณกำลังมองหาซูเปอร์สปอร์ตที่ทั้งเร้าใจ ควบคุมง่าย เทคโนโลยีล้น และมี DNA ของ R-Series เต็มๆ “Yamaha R9” คือคำตอบที่ตรงใจที่สุดในตอนนี้!!!

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้