Last updated: 5 ส.ค. 2568 | 13 จำนวนผู้เข้าชม |
การแข่งขัน Endurance Race ที่ขึ้นชื่อว่าโหดที่สุดในญี่ปุ่น “Suzuka 8 Hours” เวียนกลับมาอีกครั้งในปี 2025 พร้อมกับศึกดวลความอึดที่ดุเดือดเกินความคาดหมาย และในปีนี้ Yamaha Racing Team สามารถแสดงพลังแห่งความกลมเกลียวของทีมเวิร์กระดับโลกได้อย่างน่าทึ่ง ไล่บี้คู่แข่งแบบไม่ลดละจนวินาทีสุดท้าย ก่อนคว้าอันดับ 2 บนโพเดี้ยมไปครองแบบสุดมันส์
สามนักบิดระดับโลก ผนึกกำลังเฉียดคว้าชัย
การกลับมาร่วมแข่งขันในรายการนี้อีกครั้งในรอบ 6 ปีของ Yamaha Racing Team นำโดยนักบิดเจ้าบ้านขวัญใจชาวญี่ปุ่น “คัตซึยูกิ นาคาสุกะ” ผนึกกำลังกับ “แจ็ค มิลเลอร์” ดาวดังจาก MotoGP และ “อันเดรีย โลคาเทลลี่” จาก WorldSBK สร้างแรงกระเพื่อมให้วงการมอเตอร์สปอร์ตญี่ปุ่นตั้งแต่ก่อนการแข่งขันจะเริ่ม
โดยในการแข่งขัน 8 ชั่วโมงอันดุเดือด ทั้งสามผลัดเปลี่ยนลงสนามบิดรถแข่ง YZF-R1 อย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะ แจ็ค มิลเลอร์ ที่โชว์ฟอร์มสุดโหดในช่วงท้าย ไล่บี้เวลาจากทีมผู้นำจนเหลือห่างเพียง 34.243 วินาที หลังจบการแข่งขัน 217 รอบ ก่อนเข้าเส้นชัยในอันดับ 2 ท่ามกลางเสียงเชียร์ลั่นซูซูกะ
ดราม่า ท็อปฟอร์ม และความหวังจากสนามซูซูกะ
ช่วงกลางถึงท้ายเรซคือจุดเปลี่ยนสำคัญ นาคาสุกะ เริ่มเปิดเกมรุกในช่วงที่สองของตน ก่อนเซฟตี้คาร์ออกมาสองครั้ง จังหวะนี้เองที่ทำให้ทีม Yamaha Racing Team มีโอกาสไล่บี้จ่าฝูงได้อีกครั้ง และ โลคาเทลลี่ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการทำสถิติสนามใหม่ที่ 2’06.729 นาทีบนรอบที่ 186
แม้สุดท้ายจะยังไม่สามารถคว้าชัยในศึกนี้ได้ แต่นี่คือ “บทพิสูจน์” ว่าทีมยามาฮ่าพร้อมกลับมาอย่างแข็งแกร่งและพร้อมล่าชัยในปีถัดไป
YART พลาด! แต่ยังคงนำในตาราง EWC
อีกหนึ่งทีมยามาฮ่าที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้คือ Yamalube YART Yamaha EWC Official Team หรือ YART ซึ่งแม้จะต้องพบกับโชคร้ายจากอุบัติเหตุถึงสองครั้งจนต้องถอนตัวจากการแข่งขัน แต่ผลงานในสนามก่อนหน้านี้ทำให้พวกเขายังนำเป็นจ่าฝูงของตาราง EWC อยู่หนึ่งคะแนนก่อนเข้าสู่สนามสุดท้ายที่ Bol d'Or ในเดือนกันยายน
นักบิดทั้งสามอย่าง มาร์วิน ฟริทซ์, คาเรล ฮานิกา และเจสัน โอ’ฮัลโลแรน ต่างโชว์ความมุ่งมั่นอย่างสุดกำลัง แม้จะเจอปัญหาเทคนิคและการล้ม แต่ก็ยังสามารถปีนอันดับกลับขึ้นมาได้ถึงอันดับ 15 ก่อนที่ฮานิกาจะล้มอีกครั้งจากเหตุขัดข้อง ทำให้ต้องยุติเส้นทางการแข่งขันไปอย่างน่าเสียดาย
บทสรุป : 8 ชั่วโมงแห่งศรัทธา และความหวังของชัยชนะ
แม้ Yamaha Racing Team จะพลาดแชมป์ไปอย่างฉิวเฉียด แต่การขึ้นโพเดี้ยมในฐานะทีมหน้าใหม่ในการแข่งขันครั้งแรกในรอบ 6 ปี นับว่าเป็นความสำเร็จอันน่าภาคภูมิ และยิ่งตอกย้ำว่า “จิตวิญญาณของยามาฮ่า” ยังคงแรงกล้า
สำหรับ YART แม้จะไม่จบการแข่งขัน แต่ความมุ่งมั่นและประสบการณ์ตลอด 6 สนามที่ผ่านมา คือรากฐานสำคัญในการล่าชัยในสนามสุดท้ายที่ Bol d’Or และอาจนำไปสู่การคว้าแชมป์โลก Endurance ในที่สุด