Last updated: 2 ต.ค. 2567 | 74 จำนวนผู้เข้าชม |
บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เข้าร่วมในงาน Japan Mobility Show 2023 ซึ่งจัดโดย Japan Automobile Manufacturing Association, Inc. โดยในปีนี้ยามาฮ่าออกแบบและดีไซน์บูธภายใต้แนวความคิด "FEEL LIFE" โชว์นวัตกรรมล้ำอนาคต ของรถจักรยานยนต์ ยานยนต์ไฟฟ้า จักรยานไฟฟ้า รวมถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของยามาฮ่า พร้อมกับการเปิดตัว WORLD PREMIERE MODELS อีก 6 รุ่น เป็นที่แรกของโลก และการจัดแสดงเทคโนโลยีเครื่องเสียง รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากบริษัทในเครือยามาฮ่าคอร์เปอเรชั่น พร้อมกับการสาธิตคุณสมบัติต่างๆ บนเวที และกิจกรรมอื่นๆ ที่แสดงเทคโนโลยีล่าสุดจากยามาฮ่า โดยบูธตั้งอยู่ภายในฮอลล์ 5 ฝั่งตะวันออกที่ Tokyo Big Sight ในงาน Japan Mobility Show 2023 ซึ่งจะจัดขึ้น ในระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม ถึง 5 พฤศจิกายน 2566
โดย WORLD PREMIERE MODELS ทั้ง 6 รุ่น ได้เแก่
1. MOTOROiD2 (โมโตรอยด์ทู)
จุดเริ่มต้นของ MOTOROiD มาจากคำถามที่ว่า “ความเชื่อมโยงระหว่างคนกับเครื่องจักรในอนาคตจะเป็นอย่างไร” ซึ่งคำตอบ คือการเรียนรู้ และทดลองผสมผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ากับระบบยานยนต์ โดย YAMAHA MOTOR ได้ตั้งสมมติฐานว่า “หากสร้างความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดระหว่างรถ และผู้ขับขี่ให้เป็นจริงได้ จะสร้างความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจรูปแบบใหม่ให้กับผู้ขับขี่ได้อย่างกลมกลืนเหมือนกับเพื่อนคู่ใจ” ดังแนวคิดที่ชื่อว่า Jin-Ki Kanno ที่ได้พัฒนา และนำเสนอเทคโนโลยีที่มีความล้ำสมัยภายใต้ชื่อ MOTOROiD ในปี 2017 และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัทฯ ก็ได้ดำเนินการวิจัย และพัฒนาด้านเทคโนโลยี การออกแบบ และอื่นๆ อย่างต่อเนื่องตามแนวคิดดังกล่าวจากวิวัฒนาการของ MOTOROiD ต้นแบบ สู่การพัฒนา MOTOROiD2 ให้กลายเป็นยานพาหนะส่วนบุคคลที่สามารถจดจำเจ้าของรถ รวมทั้งพัฒนาระบบการทรงตัว พร้อมขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเอง และสามารถเคลื่อนที่ไปพร้อมกันกับผู้ขับขี่ได้อีกด้วย จะให้ความรู้สึกเสมือนได้ขับเคลื่อนไปกับสิ่งมีชีวิต ดังเพื่อนร่วมทาง นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบควบคุม Active Mass Center (AMCES) สำหรับตรวจจับและปรับสมดุลของตัวรถ รวมถึงระบบ AI ที่ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อจดจำและตอบสนองต่อใบหน้าและท่าทางของผู้ขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น โดย MOTOROiD2 ยังมีคุณสมบัติบัติใหม่ที่เรียกว่า Leaf structure ที่ให้ประสบการณ์โต้ตอบเหมือนมีชีวิตจริงต่อผู้ขับขี่ ที่ไม่เคยมีในรถจักรยานยนต์ใดมาก่อน
2. TRICERA (ไทรเซร่า)
ยานยนต์ไฟฟ้าสามล้อแบบเปิดประทุน ที่ให้ความสนุกจากการควบคุม และการตอบสนองที่เร้าใจ โดยมีคอนเซ็ปต์ในการพัฒนาคือ Exciting Urban Mobility เมื่อร่างกาย จิตใจ และรถรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน โดยยานยนต์คันนี้ไม่เพียงแค่ให้ความรู้สึกอิสระขณะในขับขี่จากหลังคาเปิดประทุนเท่านั้น แต่ยังเติมเต็มประสบการณ์ในนิยามใหม่ของความเป็น KANDO ด้วยการบังคับเลี้ยวได้ทั้ง 3 ล้อ TRICERA ยังเป็นยานยนต์ที่พัฒนาโดยเน้นให้มนุษย์เป็นศูนย์กลาง พร้อมการคำนวณระดับความรู้สึกในการควบคุมการขับ ขณะเปลี่ยนจุดศูนย์กลางของวงเลี้ยวรถ ด้วยการบังคับมุมเลี้ยวเข้าหรือหักออกของล้อหลัง นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกโหมดการบังคับเลี้ยวของล้อหลังได้ด้วยตัวเอง เพื่อให้รู้สึกถึงภาคภูมิใจที่ได้พัฒนาทักษะการขับขี่ไปอีกขั้น โดยในปัจจุบันยานยนต์สมัยใหม่กำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบการควบคุมแบบอัตโนมัติแต่ ยามาฮ่า ต้องการให้ประสบการณ์ที่ตื่นเต้นเร้าใจเหนือความคาดหมาย (KANDO) ด้วยการย้อนกลับไปสู่จุดพื้นฐานที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมยานพาหนะได้ด้วยตัวเองอย่างภาคภูมิใจ
3. ELOVE (อีเลิฟ)
ยนตรกรรมที่ถูกพัฒนาจากเทคโนโลยีที่ใช้ในการสร้าง MOTOBOT หุ่นยนต์ที่มีความสามารถในขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความเร็วสูง ซึ่งเปิดตัวในปี 2015 และ MOTOROiD กลายเป็นพื้นฐานในการพัฒนา ระบบที่ช่วยรักษาเสถียรภาพรถจักรยานยนต์ขั้นสูง Advanced Motorcycle Stabilization Assistant System (AMSAS) ช่วยให้รถจักรยานยนต์ทรงตัวได้เองในความเร็วต่ำ เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่เมื่อผู้ขับขี่เกิดความเหนื่อยล้าในขณะขับขี่ แต่ยังคงสามารถเดินทางต่อได้อย่างปลอดภัย และสนุกสนานยิ่งขึ้น ELOVE ถูกสร้างขึ้นให้เป็นยนตรกรรมที่ “ปฎิวัติวงการ!” ด้วยแนวคิดสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งระบบ AMSAS รถโมเดลมาตรฐาน ภายในงานจะจัดแสดงควบคู่ไปกับเวอร์ชั่นที่ยามาฮ่า ได้ให้นักเรียนในรถดับมัธยมปลาย ในจังหวัดโอกินาว่า และนักกีฬาเทนนิสวีลแชร์มืออาชีพ มาร่วมกันออกแบบสไตล์ในพิเศษ
4. E-FV (อี-เอฟวี)
จักรยานไฟฟ้าขนาดเล็กสไตล์สปอร์ต (MINIBIKE) เหมาะสำหรับกิจกรรมสุดพิเศษที่จะเพิ่มทักษะการขับขี่ชั้นสูง ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยทีมวิศวกรอาสาสมัครรุ่นเยาว์ที่มีความสนใจอยากค้นหาความเพลิดเพลินที่เป็นไปได้จากการขับขี่ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า โดยการติดตั้ง Power Unit แบบเดียวกับ TY-E Electrical Bike ทำให้ E-FV ไม่จำเป็นต้องใช้การเปลี่ยนเกียร์ นอกจากนี้การที่รถขับเคลื่อนระบบไฟฟ้ามีเสียงเบา จึงมีการติดตั้งเทคโนโลยี Active Sound Control ช่วยให้ผู้ขี่เพลิดเพลินแบบเดียวกับรถที่ใช้น้ำมัน โดยสร้างเสียงการขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เมื่อสตาร์ทหรือดับเครื่อง
5. Y-00Z MTB (วาย-ซีโร่ ซีโร่ ซี เมาเท่นไบค์)
จักรยานที่ผสมรถบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ที่ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Yamaha Motor Off-Road DNA การนำเอาเทคโนโลยี eTMB เป็นการผสมผสานการจัดเรียงชุดขับเคลื่อนแบบแยกส่วน ให้เข้ากับระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า (EPS) โดยใช้เซ็นเซอร์แรงบิดแบบ magnetostrictive และได้รับการพิสูจน์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ PAS ของเราที่เป็นจักรยานที่ถูกขับเคลื่อนด้วยกำลังด้วยของไฟฟ้า ซึ่งมีผลลัพธ์ที่ดีคือการควบคุมที่ดีเยี่ยม และความเสถียรในการขับขี่แบบออฟโรด
6. Y-01W AWD (วาย-ซีโร่วัน ออล วีล ไดร์ฟ)
รถจักรยานไฟฟ้าสไตล์ Adventure ที่ผสมผสานมอเตอร์ไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้ตรงกลางตัวรถ และมอเตอร์ที่ล้อหน้าสำหรับขับเคลื่อนได้แบบสองล้อ ด้วยการควบคุมอิเล็กทรอนิกส์แบบประสานงานกันของมอเตอร์สองตัว พร้อมแบตเตอรี่คู่ทำให้สามารถขับขี่ได้ในระยะทางไกล ยางที่ใช้ได้ในถนนหลายรูปแบบ และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ Y-01W AWD มีสมรรถนะทางออฟโรดที่ยอดเยี่ยม และเป็นโมเดลแนวคิดที่มีขอบเขตศักยภาพเปิดกว้างต่อรูปแบบของการขับขี่หลากหลายรถจักรยานไฟฟ้าอย่างแท้จริง
นอกเหนือจาก WORLD PREMIERE MODELS ทั้ง 6 รุ่น นี้แล้ว ยามาฮ่ามอเตอร์ ยังนำผลิตภัณฑ์ และโปรดักส์อื่นๆ ที่มีเทคโนโลยีสุดล้ำมาร่วมจัดแสดงได้แก่
* TMW (ทีเอ็มดับบิว)
รถจักรยานยนต์ 3 ล้อ แบบไฮบริด ที่ถูกสร้างสรรค์โดยทีมวิศวกรอาสาสมัครจากทีมทดสอบรถของยามาฮ่า รถจักรยานยนต์ TMW เป็นรถสไตล์ออฟโรดสามล้อที่ใช้เทคโนโลยี Leaning Multi-Wheel (LMW)* และระบบคานรองรับขนาดใหญ่ด้านหน้าของ LMW จะคงระดับกับพื้นไม่ว่าจะรถเอียงหรือเลี้ยวก็ตาม พื้นที่เก็บสัมภาระขนาดใหญ่นี้ยังดึงดูดผู้ใช้ให้ออกไปผจญภัยอีกด้วย TMW ยังเป็น HYBRID ระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 2 ล้อหน้าด้วย Hub Motor และล้อหลังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ *เทคโนโลยีของ Yamaha Motor ที่สองล้อหน้าเคลื่อนไหวอย่างมีอิสระและมีความสามารถในการปรับตัวสำหรับสภาพพื้นถนนต่างๆ
* YXZ1000R (Hydrogen-Engine)
ยานพาหนะเพื่อการเดินทางด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์ที่ใช้เป็นพลังงานไฮโดรเจน 100% โดย YXZ1000R คันนี้ เป็นยานพาหนะที่ไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ โดยการพัฒนารถพลังงานไฮโดรเจนคันนี้มีจุดเริ่มต้นจากความพยายามในการลดการปล่อยคาร์บอนฯ ในอากาศ เครื่องยนต์ไฮโดรเจนมีศักยภาพในการขับเคลื่อนด้วยสมรรถนะที่สูงในขณะที่ยังคงมีการใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่จะไม่มีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาทำลายชั้นบรรยากาศของโลก โดย Yamaha Motor กำลังศึกษาศักยภาพดังกล่าวโดยมีการพยายามที่จะรักษาเอกลักษณ์ของเครื่องยนต์ เช่นเสียง และความรู้สึกเมื่อรถเคลื่อนที่เหล่านี้ไว้ให้คงอยู่ต่อไปในอนาคต
* Mobile Robot Arm
หุ่นยนต์ร่วมปฏิบัติงานแบบเคลื่อนที่ (mobile collaborative robot or Cobot) ถูกนำมาใช้ปฏิบัติงานแทนที่แรงงานคน ร่วมกับรถเข็นอัตโนมัติ แขนหุ่นยนต์ 7 แกนทำให้สามารถเคลื่อนไหวได้เช่นเดียวกับแขนของมนุษย์และด้วยการออกแบบของ Cobot ทำให้ Mobile Robot Arm สามารถทำงานได้ในพื้นที่จำกัดเช่นเดียวกับมนุษย์ โดยสามารถเคลื่อนไหวและเลียนแบบการเคลื่อนไหวของมนุษย์ รวมถึงการหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้
* Real Sound Viewing
เป็นระบบที่กำลังพัฒนาโดย บริษัท ยามาฮ่า คอร์เปอเรชั่น มีแนวคิดมาจาก vacuum-packed live performance ซึ่งต้องการเก็บรักษาผลงานของศิลปิน เพื่อจัดให้มีการแสดงซ้ำได้อีกชนิดสมจริง โดยผสมผสานเทคโนโลยีใหม่เช่นการแปลงเสียงเป็นรูปแบบดิจิตัล (sound digitizing) และใช้เทคโนโลยี TransAcoustic ของยามาฮ่า ด้วยการเข้าถึงภาพหน้าจอทำให้ผู้ชมได้รับความเพลิดเพลินจากการแสดงของศิลปินที่ถูกบัญทึกไว้ได้ราวกับการเข้าร่วมรับชมการแสดงสด
* Active Field Control
คือระบบควบคุมภาพ และเสียงของยามาฮ่า ที่ให้ผู้ใช้สร้างสภาพแวดล้อมทางเสียงในอุดมคติ AFC Enhance สามารถควบคุมเสียงก้องของพื้นที่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ในขณะที่ AFC Image สามารถควบคุม แยกแยะภาพ และเสียงในตำแหน่งใดก็ได้ ระบบนี้ตอบสนองความต้องการของการผลิตเสียงที่ซับซ้อนในการใช้งานที่หลากหลาย AFC จะถูกนำมาใช้ที่บูธของยามาฮ่า ทั้งหมดในงานปีนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์การฟังที่ดื่มด่ำที่เหนือกว่า
* CHARLIE Yamaha Corporation ให้ชีวิตทุกๆ วันเติมเต็มด้วยเสียงเพลง
Charlie เป็นหุ่นยนต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการสื่อสาร โดยบริษัท ยามาฮ่า คอร์เปอเรชั่น Charlie ใช้เทคโนโลยี VOCALOID และเทคโนโลยีการสร้างเพลงอัตโนมัติ (VOCALOID and Automatic Song Creation Technologies) ในการโต้ตอบกับคู่สนทนา ทำให้การโต้ตอบบทสนทนาของ Charlie กลายเป็นท่วงทำนองที่ทำให้คู่สนทนารู้สึกผ่อนคลาย สำหรับหุ่นยนต์ Charlie ที่จะจัดแสดงที่บูธของยามาฮ่า ในงาน Japan Mobility Show 2023 เป็นรุ่นที่ถูกพัฒนามาเป็นพิเศษ โดยการผสมผสานการใช้เทคโนโลยี AI-based learning and tuning เพื่อช่วยปรับเปลี่ยนท่าทางการแสดงออก รวมทั้งการใช้ Song Production AI ในการสร้างสรรค์เพลงใหม่ ของ Charlie
* Rock me on
ม้าโยกไม้ที่ถูกออกแบบให้เป็นได้ทั้งของเล่นชิ้นแรก และเครื่องดนตรีเครื่องแรกของเด็กๆ ทำให้มันถูกเรียกในเชิงสัญลักษณ์ว่า “My First Yamaha” หรือ “ยามาฮ่าชิ้นแรกของฉัน” ผลงานชิ้นนี้ถูกจัดแสดงที่นิทรรศการ “You Are Here” โดย ยามาฮ่า คอร์เปอเรชั่น ที่งาน Milan Design Week 2023 ซึ่งเป็นหนึ่งในงานนิทรรศการผลงานการออกแบบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก
Solo & Classic
ขาตั้งกีตาร์โปร่งและโครงกีตาร์คลาสสิกถูกออกแบบเพื่อใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ในครัวเรือนโดยบริษัท ยามาฮ่า คอร์เปอเรชั่น เพื่อทำให้บรรยากาศในการใช้ชีวิตกับเครื่องดนตรีมีความสนุกสนานมากยิ่งขึ้น ผลงานออกแบบทั้งสองชิ้นถูกผลิตโดยบริษัทเฟอร์นิเจอร์ระดับไฮเอนด์ Mexarts ในขณะที่เล่นกีตาร์ Solo สามารถเปลี่ยนเป็นเก้าอี้สูงได้ ในขณะที่ โครงกีตาร์ Classic นั้นสามารถใช้เป็นม้านั่งได้
7 ต.ค. 2567
9 ต.ค. 2567