Last updated: 2 ต.ค. 2567 | 823 จำนวนผู้เข้าชม |
เบิร์ด – ประวัติ ญาณวุฒิ #95, โซ่ – อานนท์ สังวาลย์ #3 และ ซุป – อนุชา นาคเจริญศรี #10 สามขุนพลตัวเก่งของทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ยังคงแข็งแกร่งโชว์ฟอร์มการขับขี่รถแข่งตระกูล R-Series สุดเร้าใจ ก่อนทะยานขึ้นโพเดี้ยมทั้งรุ่น SS1, ST1 และ SB1 ได้สำเร็จ ในศึกชิงแชมป์ประเทศไทย ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 สนามที่ 4 รายการ R2M THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 สนามที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-4 มิถุนยายน 2560 ณ สนามไทยแลนด์ เซอร์กิต นครชัยศรี จ.นครปฐม
สำหรับเกมการแข่งขันรายการ R2M THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 สนามที่ 2 นี้ นักบิดยามาฮ่าสังกัด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM เตรียมความพร้อมสำหรับการชิงชัยเก็บแต้มเพื่อตำแหน่งแชมป์ประเทศไทยมาแบบเต็มพิกัด นำทัพโดย เบิร์ด-ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ในรุ่น Professional SS1 และ โซ่-อานนท์ สังวาลย์ #3 ในรุ่น Professional ST1 ซึ่งทั้งคู่สามารถคว้าชัยชนะอันดับ1 ในศึกชิงแชมป์ประเทศไทย ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 มาได้ 3 สนามซ้อน พร้อมกับรั้งตำแหน่งผู้นำคะแนนสะสมในรุ่นของตัวเอง และ ซุป-อนุชา นาคเจริญศรี #10 ในรุ่น Professional SB1 ที่แม้ว่าปีนี้จะต้องเจอศึกหนักแต่ก็ยังมีลุ้นรักษาตำแหน่งแชมป์ประเทศไทยอยู่เช่นกัน
โดยในรอบควอลิฟายจับเวลาหาตำแหน่งสตาร์ทในสนามนี้ ในรุ่น Professional SS1 ตำแหน่งโพลโพซิชั่นยังคงตกเป็ นของ “เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ที่บิดคันเร่งรถแข่ง YZF-R6 กดเวลาต่อรอบเร็วที่สุดอยู่ที่ 1’22.668 นาที และยังคงทำเวลาทิ้งห่างคู่แข่งแบบขาดลอยด้วยเวลา 4.732 วินาที ส่วน “เจ้าโซ่” อานนท์ สังวาลย์ #3 ที่ลงชิงชัยรุ่น Professional ST1 ก็กระชากคันเร่ง YZF-R1 ทำเวลาต่อรอบดีที่สุดอยู่ 1’22.085 นาที โดยถูกคู่แข่งเฉือนไปเพียง 0.241 วินาที แต่ก็ยังคงได้ออกสตาร์ทแถวหน้ าโดยอยู่ในกริดสตาร์ทที่ 2 ปิดท้ายด้วยรุ่น Professional SB1 ซึ่ง “เจ้าซุป” อนุชา นาคเจริญศรี #10 ที่แม้ยังคงมีอาการบาดเจ็บหลังจากที่พลาดล้มสนามก่อนหน้านี้ สามารถทำเวลาควอลิฟายดีที่สุดอยู่ที่ 1.21.066 นาที ได้ออกสตาร์ทแถวหน้าในกริดสตาร์ทที่ 3 ด้วยเวลาที่ห่างจากหัวแถวไม่ถึง 1 วินาที
ประเดิมความมันส์เกมการแข่งขันรายการ R2M THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 สนามที่ 2 ของขุนพลนักบิดสังกัด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM กันด้วยรุ่น Professional ST1 โดย “เจ้าโซ่” อานนท์ สังวาลย์ #3 ลงชิงชัยด้วยการออกสตาร์ทในกริดที่ 2 ท่ามกลางสภาพลมที่พัดโหมกระหน่ำอย่างแรง แต่ทันทีที่สัญญาณสตาร์ทไฟแดงดับลง รถแข่ง YZF-R1 หมายเลข 3 ก็ทะยานออกตัวฝ่ากระแสลมไปอย่างรวดเร็ว พุ่งสู่โค้งแรกพร้อมกับคว้าโฮลช๊อตมาครองได้สำเร็จ จากนั้นนักบิดมาดแบดบอยของทีมยามาฮ่าก็หวดคันเร่งฉีกหนีคู่ แข่งออกไปอย่างรวดเร็วเพื่อลดแรงกดดันให้กับตัวเอง และเมื่อเกมดำเนินไปได้ 5 รอบสนามก็มีฝนตกลงมา แต่ “เจ้าโซ่” อานนท์ สังวาลย์ #3 ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเบาคันเร่งลงแม้แต่น้อย ทำให้ยืดระยะห่างออกจากผู้ตามไปได้มากพอสมควร ก่อนที่ในรอบที่ 7 นายสนามจะประกาศให้เกมการแข่งขันเป็น Wet Race เพื่อให้นักแข่งสามารถเข้ามาเปลี่ยนยางได้ แต่นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ตัดสินใจไม่เข้าพิท ยังคงขับขี่ต่อไปโดยลดความเร็วลงพร้อมกับขับขี่ประคองระยะห่างที่มีอยู่มากเอาไว้ จากนั้นฝนได้กระหน่าลงมาอย่างหนัก ทำให้รถแข่งหลายคันชะลอความเร็วลงอย่างเห็นได้ชัด บางคันเข้าพิทเพื่อเปลี่ยนเป็นยางฝน
จนกระทั้งเกมการแข่งขันครบ 17 รอบสนาม “เจ้าโซ่” อานนท์ สังวาลย์ #3 ที่ขับขี่ฝ่าพายุฝนอย่างหนักในช่วงท้ายเกม ก็ทะยานเข้าเส้นชัยรับธงตราหมากรุกได้เป็นคันแรกได้สำเร็จ พร้อมกับทำสถิติคว้าชัยชนะอันดับที่ 1 ในศึกชิงแชมป์ประเทศไทย ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 ได้เป็นสนามที่ 4 ติดต่อกัน และยังรั้งตำแหน่งผู้นำคะแนนสะสมด้วยผลงาน “เพอร์เฟ็ควิน” ต่อไป
โดย “เจ้าโซ่” อานนท์ สังวาลย์ ได้กล่าวหลังจบการแข่งขันว่า “สำหรับสนามนี้ ผมพลาดล้มในช่วงควอลิฟายทำให้ต้องออกสตาร์ทที่ 2 แต่ผมก็ยังมั่นใจเพราะเวลายังอยู่ในมือ รู้ว่าเราสามารถทำได้แน่นอน แม้ตอนแข่งขันจะกดดันนิดดันเพราะไม่สามารถประมาทคู่แข่งได้แม้แต่น้อย เมื่อเกมผ่านไปไม่ถึงครึ่งทางฝนก็ตกลงมาทำให้ผมมั่นใจมากขึ้น เพราะขี่ในสภาพแทร็คเปียกได้ค่อนข้างดีอยู่แล้ว อีกทั้งยังทิ้งระยะห่างจากคู่แข่งอยู่มาก จึงไม่มีความกังวลใจเท่าไหร่นัก ก็รู้สึกดีใจที่สามารถเก็บชัยชนะได้ 4 สนามติดต่อกัน และจะพยายามคว้าอันดับที่ 1 ในสนามต่อๆ ไปให้ได้ครับ ขอบคุณทีมงานที่เซ็ทรถได้อย่างสมบูรณ์แบบ ขอบคุณสปอนเซอร์ที่ให้การสนับสนุน และขอบคุณกองเชียร์ทุกคนด้วยครับ”
จากนั้นขยับความมันส์มาที่รุ่นใหญ่ Professional SB1 ซึ่ง “เจ้าซุป” อนุชา นาคเจริญศรี #10 นักบิดสังกัด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM สวมหัวใจนักสู้ลงทำการแข่งขันในสภาพร่างกายที่มีอาการบาดเจ็บที่ซี่โครงและหลัง โดยออกสตาร์ทในกริดที่ 3 ด้วยสภาพสนามแข่งที่ถูกประกาศให้เป็น Wet Race ซึ่งมีฝนตกโปรยปรายอยู่ตลอดเวลา และลดรอบการแข่งขันจาก 17 รอบเหลือ 15 รอบเท่านั้น แต่เมื่อทันทีที่เริ่มการแข่งขันเกมการแข่งขันก็เต็มไปด้วยความเร้าใจตั้งแต่ต้นเกมเลยทีเดียว โดย “เจ้าซุป” อนุชา นาคเจริญศรี #10 สามารถขยับตำแหน่งขึ้นมาอยู่อันดับ 2 ได้ตั้งแต่ผ่านโค้งแรก โดยโดนประกบจากคู่แข่งซึ่งเป็นทีมเดียวกัน
ในรอบที่ 3 “เจ้าซุป” อนุชา นาคเจริญศรี #10 สามารถขึ้นมาเป็นหัวแถวได้สำเร็จหลังจากไล่กดดันจนผู้นำพลาดล้มไปเองในโค้งแรก เมื่อขึ้นเป็นผู้นำแล้วนักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ก็เจอเกมหนักด้วยการไล่บี้จากคู่แข่งซึ่งเคยผ่านเกมโมโตทูมาแล้วอย่างหนัก จนกระทั้งคู่แข่งถูกแซงไปได้ในรอบที่ 7 แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะ “เจ้าซุป” อนุชา ก็สามารถหาจังหวะแซงทวงตำแหน่งผู้นำได้สำเร็จอีกครั้งในรอบที่ 9 ของเกมการแข่งขัน
จากนั้นเมื่อกลับขึ้นมาเป็นผู้นำ นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ก็กระชากคันเร่งรถแข่ง YZF-R1 ทำเวลายืดระยะห่างจากคู่แข่งได้ออกไปเรื่อยๆ กระทั้งเกมการแข่งขันดำเนินมาครอบทั้ง 15 รอบสนาม “เจ้าซุป” อนุชา นาคเจริญศรี #10 ที่สวมบทซูเปอร์แมนก็ทะยานเข้าเส้นชัยผ่านธงตราหมากรุกได้สำเร็จเป็นคันแรก ท่ามกลางความสะใจของทีมงาน กองเชียร์ และตัวเอง พร้อมกับสามารถขึ้นยืนโพเดี้ยมอันดับที่ 1 ศึกชิงแชมป์ประเทศไทย ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 ได้สำเร็จ
โดย “เจ้าซุป” อนุชา นาคเจริญศรี กล่าวหลังจบเกมในสนามนี้ว่า “ดีใจสุดๆ ครับ ที่วันนี้คว้าที่ 1 ได้สำเร็จ โดยก่อนเกมเราวางเป้าหมายไว้ว่าขอมีแต้มก็พอเพราะผมยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ แต่ด้วยความพร้อมของรถแข่ง สภาพอากาศที่เป็นใจ รวมถึงกำลังใจของตัวผมเอง ซึ่งเหมือนทุกอย่างมันลงตัวไปหมด จึงทำให้สามารถยืนโพเดี้ยมสูงสุดได้ในวันนี้ครับ และยังทำให้ความมั่นใจของผมกลับมาเต็มร้อยพร้อมที่จะสู้ต่อในการแข่งขันสนามต่อๆ ไป โดยอาการบาดเจ็บแม้จะต้องใช้เวลารักษาอยู่พอสมควร แต่ผมก็จะพยายามอย่างเต็มที่ต่อไปครับ”
ปิดท้ายการแข่งขันในสนามนี้ด้วยการแข่งขันรุ่น Professional SS1 ที่ตำแหน่งโพลโพซิชั่นเป็นของ “เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ #95 นักบิดสังกัด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ซึ่งลงทำการแข่งขันในสภาพสนาม Wet Race ด้วยการออกสตาร์ทในกริดที่ 1 กับจำนวนรอบการแข่งขันที่เหลือเพียง 15 รอบสนามเท่านั้น โดยทันทีที่สัญญาณไฟแดงดับลง รถแข่ง YZF-R6 หมายเลข 95 ก็ทะยานออกตัวขึ้นเป็นผู้นำได้ตั้งแต่วินาทีแรกของการชิงชัย พร้อมกับความโฮลช๊อตในโค้งแรกได้สำเร็จอีกด้วย
เมื่อทะยานขึ้นเป็นผู้นำได้ แม้จะไร้แรงกดดันจากคู่แข่ง แต่ “เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ก็บิดคันเร่งทิ้งห่างด้านหลังออกไปทุกรอบของการแข่งขั นโดยไม่มีการออมมือ โดยเป้าหมายอยู่ที่การทำเวลาต่อรอบให้มีสถิติดีที่สุดของรุ่นนี้ให้ได้ และยิ่งการแข่งขันผ่านไปเรื่อยๆ ความเร็วของรถแข่ง YZF-R6 ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะพื้นสนามเริ่มแห้งเนื่องจากไม่มีเม้ดฝนตกลงมาแล้ว ทำให้นักบิด YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ยิ่งทิ้งห่างคู่แข่งออกไปแบบมองไม่เห็นท้ายกันเลยทีเดียว
จนกระทั้งการแข่งขันครบทั้ง 15 รอบสนาม “เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ #95 ก็ควบรถแข่ง YZF-R6 ทะยานเข้าเส้นชัยคว้าอันดับที่ 1 รุ่น Professional SS1 มาครองได้สำเร็จ พร้อมกับทำสถิติยืนโพเดี้ยมอันดับที่ 1 แบบ 100% เต็ม ในศึกชิงแชมป์ประเทศไทย ALL THAILAND SUPERBIKES CHAMPIONSHIP 2017 ทั้ง 4 สนามได้สำเร็จ
โดย “เจ้าเบิร์ด” ประวัติ ญาณวุฒิ กล่าวหลังจบการแข่งขันในสนามนี้ว่า “สำหรับสนามนี้เราเตรียมตัวรับมือกับการลงแข่งในสนามเปียกมาตั้งแต่เมื่อวาน เพราะดูจากพยากรณ์อากาศว่าจะมีฝนตก ซึ่งก็เป็นไปอย่างที่คาดเอาไว้ ทำให้เราสามารถเตรียมความพร้อมของรถแข่งได้อย่างลงตัว ซึ่งในเกมการแข่งขันก็ไม่มีอะไรให้หนักใจ มีเพียงแค่การขับขี่ให้เวลาต่อรอบคงที่ทุกๆ รอบเท่านั้น ซึ่งผมก็สามารถทำได้ตามเป้าที่วางเอาไว้ โดยในสนามต่อๆ ไปเป้าหมายก็คือการคว้าชัยชนะให้ได้ทุกสนาม พร้อมกับพยายามทำลายสถิติของตัวเองให้ได้ อย่าลืมเป็นกำลังใจให้กับผมด้วยนะครับ”
นอกจากนี้ นายธีระพงษ์ แสงทอง ผู้จัดการส่วนกีฬายานยนต์ บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด ได้กล่าวถึงผลงานโดยรวมของทีม YAMAHA RIDERS’ CLUB RACING TEAM ในสนามนี้ว่า “ด้วยผลงานการยืนโพเดี้ยมอันดับที่ 1 ทั้งสามรุ่นในวันนี้ ก็ต้องถือว่าเกินเป้าหมายที่ทางเราตั้งเป้าเอาไว้ โดยเฉพาะในรุ่น SB1 ที่สภาพร่างกายของนักแข่งไม่สมบูรณ์เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บอยู่ เราก็ตั้งเป้าไว้เพียงแค่ให้มีคะแนนเก็บเพื่อจะได้ไม่เหนื่อยมากนักในสนามต่อๆ ไปที่ยังเหลืออยู่ แต่ด้วยความสามารถของตัวนักแข่งเองผมก็เชื่อว่าสามารถที่จะขึ้นอันดับ 1 ได้ ก็ต้องถือว่าวันนี้เราทำได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ ส่วนในรุ่น ST1 และ SS1 นักแข่งของเราก็สามารถทำผลงานได้ดีตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งวันนี้ก็ถือว่าเป็นความสำเร็จของทีมเราอีกวันหนึ่งครับ ส่วนในสนามต่อๆ ไป เราก็จะพยายามพัฒนารถแข่งให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะรุ่น SB1 ที่ยังมีการบ้านให้ทำอีกเยอะ รวมถึงการเตรียมความฟิตของตัวนักแข่งเองที่เราต้องดูแลให้กลับมามีสภาพร่างกายที่สมบูรณ์ที่สุดโดยเร็ว ซึ่งเราจะต้องทำทั้งสองสิ่งนี้ควบคู่กันไปทั้งทีมด้วยครับ”