"กวาร์ตาราโร" ซิวกริดที่ 6 ลั่นแกร่งพอลุ้นแชมป์ โมโตจีพี อารากอน

Last updated: 18 ก.ย. 2565  |  277 จำนวนผู้เข้าชม  | 

"กวาร์ตาราโร" ซิวกริดที่ 6 ลั่นแกร่งพอลุ้นแชมป์ โมโตจีพี อารากอน

   "เอลดิอาโบล" ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร #20 แชมป์โลกชาวฝรั่งเศสจาก มอนสเตอร์ ยามาฮ่า ออกโรงแสดงความเสียดายหลังคว้ากริดที่ 6 ในศึก โมโตจีพี สนาม 15 อารากอน กรังด์ปรีซ์ เจ้าตัวเผยแข็งแกร่งเพียงพอลุ้นชัยชนะวันอาทิตย์นี้ แม้ยอมรับเป็นงานยาก เมื่อต้องตามหลังคู่แข่งหลายคัน

   ศึก อารากอน กรังด์ปรีซ์ ผ่านการควอลิฟายเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา โดยนับเป็นอีกหนึ่งการควอลิฟายที่สุดหินสำหรับนักบิดจากยามาฮ่า

   อย่างไรก็ดี กวาร์ตาราโร ก็สามารถพารถแข่ง M1 หมายเลข 20 คว้ากริดสตาร์ทอันดับ 6 มาครองได้สำเร็จ ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 46.802 วินาที ตามหลังเจ้าของโพลอย่าง ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า นักบิดอิตาเลียน 0.733 วินาที



   "เรารู้ดีว่าเรากำลังเสียเวลาต่อรอบในแทร็ก มันคือสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในวันพรุ่งนี้ แต่ยังไงก็ตาม... ผมจะทุ่มเทสุดตัวแบบเต็มร้อย" กวาร์ตาราโร เผย

   แชมป์โลกชาวฝรั่งเศสกล่าวถึงสถานการณ์ในรอบควอลิฟายว่า "ผมเสียการควบคุมที่ล้อหน้าในโค้ง 2 แต่นั่นเป็นความผิดพลาดเพียงอย่างเดียวของผม ทำให้เสียเวลาในรอบนั้นไป แต่ผมคิดว่ามันไม่ได้ส่งผลอะไรต่ออันดับมากนัก ดังนั้นจึงกลับมากดเวลาใหม่ในรอบต่อมา และมันก็ใกล้เคียงกันมากๆ ดูเหมือนว่าอันดับ 6 จะดีที่สุดสำหรับเราแล้ว"



   "มันน่าเสียดายเพราะผมพอใจกับความเร็วของตัวเองมาก ผมรู้สึกค่อนข้างดีและเราก็มีความแข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้เพื่อชัยชนะ แต่การขี่ตามคู่แข่งหลายคนในเรซมักเป็นเรื่องยากเสมอ" กวาร์ตาราโร ทิ้งท้าย

   ขณะที่ทีมเมทอย่าง ฟรังโก มอร์บิเดลลี นักบิดอิตาเลียนหมายเลข 21 ยังคงเจอปัญหากับการรีดความเร็วรถแข่ง M1 ได้เริ่มเกมจากกริดที่ 20 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 47.651 วินาที



   มอร์บิเดลลี เผยว่า "มันเป็นวันที่ยากมาก ผมไม่สามารถเค้นศักยภาพของรถแข่งออกมาได้เลย โดยเฉพาะในโค้งความเร็วสูงซึ่งผมทำความเร็วได้ช้ามาก ต่างจากในรอบ FP4 ซึ่งผมมีจังหวะที่ยอดเยี่ยม แต่ในรอบควอลิฟายมันกลับแตกต่างออกไป ดังนั้น เราจะต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อวันอาทิตย์"

   ด้านนักบิดไทยอย่าง "เคเคซัง" เขมินท์ คูโบะ จาก ยามาฮ่า วีอาร์46 มาสเตอร์แคมป์ ทีม พารถแข่งหมายเลข 81 คว้ากริดที่ 29 ในรุ่น โมโตทูมาครองด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 53.959 วินาที โดยยังคงต้องทำงานอย่างหนักสำหรับการแข่งขันในรอบอาทิตย์



   "ยางหลังที่ผมใช้ไม่สามารถสร้างการยึดเกาะได้อย่างที่เราคาดการณ์ไว้ และผมก็ยังไม่สามารถที่จะเข้าโค้งได้ดีนัก ที่ อารากอน เราต้องใช้คันเร่งอย่างเหมาะสมมากๆ และหากรถแข่งไม่สามารถเลี้ยวได้ มันจะยิ่งยากต่อการทำเวลาต่อรอบ อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันวันอาทิตย์นี้ผมจะทุ่มสุดความสามารถของตัวเอง" เขมินท์ ทิ้งท้าย

   สำหรับการแข่งขัน อารากอน กรังด์ปรีซ์ จะดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 18 กันยายนนี้ ออกสตาร์ทในรุ่น โมโตทู 17.20 น. ตามเวลาประเทศไทย และปิดท้ายด้วย โมโตจีพี เวลา 19.00 น.

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้